อาการ "ชา" บอกอะไรได้บ้าง
อาการชา คืออะไร
อาการชา คือ การที่เนื้อเยื่อรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ได้ลดลง เช่น อาการเจ็บ ปวด และการสัมผัส สามารถเกิดได้กับเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดกับเนื้อเยื่อบริเวณ แขน มือ นิ้วมือ เท้า นิ้วเท้า โดยอาการชามาจากการบาดเจ็บของเส้นประสาท ไขสันหลัง หรือสมอง
สาเหตุของอาการชา
การกดทับนานๆ จนเลือดไม่ไหลเวียน
ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
ภาวะร่างกายเสียสมดุลของเกลือแร่
โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูก
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
ร่างกายขาดวิตามินบางชนิด โดยเฉพาะวิตามิน บี2
อาการชาไม่ใช่โรค แต่เป็นสัญญาณของโรคต่างๆ แต่หลายคนกลับมองข้าม และคิดว่าอาการนี้จะสามารถหายไปเองได้ จึงไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี แต่รู้หรือไม่ว่าหากปล่อยทิ้งไว้จนทำให้การรับความรู้สึกลดน้อยลงไปเรื่อยๆ อาจรุนแรงถึงขั้นเนื้อตายได้เลย ทั้งยังเป็นอาการของโรคบางชนิด เช่น โรคเกาต์ เบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ เป็นต้น
เบื้องต้นเราอาจสังเกตจากตำแหน่งการชา ได้ดังนี้
ปวดร้าว ชาสะโพกไปถึงเท้า อาการชาแบบนี้มักจะเกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งหากเคลื่อนทับไปมากอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หากปล่อยไว้นานๆ อาจเกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้เลยทีเดียว
ปวดคอ บ่า ชาไปที่ฝ่ามือและปลายนิ้ว อาการแบบนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากโรคออฟฟิศซินโดรม ที่ต้องทำงานก้มๆ เงยๆ นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ
ฉะนั้นเมื่อมีอาการชาตามมือตามเท้า จึงไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณอันตราย ของโรคร้าย ควรตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงโดยด่วน