เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า กายภาพบำบัด (Electrical Stimulation) คืออะไร
ในร่างกายมนุษย์มีประจุไฟฟ้าที่เรียกว่าไออน (Ion) เป็นองค์ประกอบพื้นฐานโดยการทำงานของเซลล์ในร่างกายเกิดจากมีการเปลี่ยนแปลงของประจุไฟฟ้าของสารละลายอิเล็กโทรไลต์ คือ แร่ธาตุ เช่น เกลือแร่ ที่สามารถแตกตัวเป็นไอออนอิสระเมื่อละลายในสารทำละลาย เช่น น้ำ พลาสมา และสามารถนำไฟฟ้าได้ ประจุไฟฟ้าไอออนบวกคือ โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม ประจุไฟฟ้าไอออนลบคือ คลอรีน คาร์บอเนต และ โปรตีน
ซึ่งแน่นอนที่ประจุแร่ธาตุเหล่านี้มีประโยชน์และช่วยการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้
การใช้กระตุ้นไฟฟ้าบำบัดรักษาโรค เป็นการสร้างคลื่นที่มีความจำเพาะและมีค่าแม่นยำ เหมาะสำหรับการรักษาและสามารถกระตุ้นได้นาน โดยไม่มีผลแทรกซ้อน กระแสไฟฟ้าที่ใช้รักษาทางกายภาพบบำบัดจะเป็นคลื่นความถี่ต่ำทำให้มีความรู้สึกสบายระหว่างกระตุ้น สามารถรักษาปัญหากล้าเนื้อลีบ อ่อนแรง เพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดปวดและลดบวมกล้ามเนื้อได้ดี
การรักษาด้วย เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า Electrical Stimulation (ES) คืออะไร
เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
ตามปกติร่างกายของเราจะใช้โปรตีนในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยโปรตีนจะถูกสังเคราะห์เพิ่มมากขึ้นเมื่อได้รับการกระตุ้นไฟฟ้า รวมทั้งประจุไอออน เมื่อถูกเหนี่ยวนำด้วยพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก จะไปเร่งขบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) และเร่งขบวนการลำเลียงสารอาหารเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเส้นประสาทซึ่งตามปกติจะสามารถถูกเร้าต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่าน โดยเมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าจากภายนอก จะสามารถเร้าเส้นประสาทที่อยู่ส่วนปลายด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าผ่านผิวหนัง ทำให้เกิดการตอบสนองการตื่นตัวของเส้นประสาทได้ โดยทั้งนี้ขึ้นกับ ชนิดของกระแสไฟฟ้า ความเข้มของกระแสไฟฟ้า ความถี่ของกระแสไฟฟ้า ตำแหน่งหรือบริเวณที่ติดขั้วไฟฟ้า และขนาดขั้วไฟฟ้า
ผลของการกระตุ้นไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องจะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นประสาททั้ง ในระยะสั้น และระยะยาวโดยพบว่า การกระตุ้นไฟฟ้ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อในระดับเซลล์และโครงสร้างเซลล์ รวมถึงหน้าที่ของกล้ามเนื้อนั้นอีกด้วย
8 ประเภทของ การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าในทางกายภาพบำบัด
ประเภทของเครื่องกระตุ้นไฟฟ้ามีหลายประเภท ชนิดของกระแสไฟฟ้าที่นิยมใช้ในการรักษามีดังนี้
การใช้กระแสไฟฟ้าบําบัดอาการปวด (Electrical stimulation for pain control)(ES)
การกระตุ้นไฟฟ้าเพื่อการสมานแผล (Electrical stimulation for promote healing)
การกระตุ้นไฟฟ้าร่วมกับการออกกําาลังกายเพื่อเรียนรู้หน้าที่ใหม่(Electrical stimulation for muscle re-education
การกระตุ้นไฟฟ้าในกล้ามเนื้อที่มีเส้นประสาทเลี้ยง (Innervated muscle) เพื่อเพิ่มแรงหดตัวความแข็งแรง เรียกว่า Neuromuscular electrical stimulation (NMES)
การกระตุ้นไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมควบคุมการเคลื่อนไหว ท่าทาง และกิจกรรม (Functional electrical stimulation, FES) ทั้งในกล้ามเนื้อที่มีเส้นประสาทและไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยง (Innervated and denervated muscle)
การกระตุ้นไฟฟ้าในกล้ามเนื้อที่ขาดเส้นประสาทมาเลี้ยง (Denervated muscle) เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว เรียกว่า Electrical muscle stimulation (EMS)
TENS หรือ Trancutaneous electrical nerve stimulationใช้กระแสไฟฟ้าในการกระตุ้นเพื่อลดอาการปวด ซึ่งนิยมใช้กันมากในปัจจุบัน การใช้กระแสไฟฟ้าในการลดปวด นอกจากจะจะใช้กระแส TENS ซึ่งนิยมใช้กันอย่างกว้างขวางและเป็นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่ผลิตขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถพบติดตัวไปใช้ได้ตลอดเวลา
การใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อการนําาส่งยาและสารเคมี (Iontophoresis)
การกระตุ้นด้วยไฟฟ้า การภาพบำบัด รักษาอาการใดได้บ้าง
การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าที่สรีรารักใช้ เป็นกระแสไฟฟ้าบำบัดเพื่อช่วยในการลดปวดโดยใช้กระแสไฟฟ้า ES ( Electrical stimulation for pain control ) และเลือกใช้รูปแบบกระแสตรงและหยุดเป็นช่วง (Interrupted direct current) ซึ่งช่วงกระแสไฟนี้ จะมีช่วงความถี่ต่ำที่สบายผิว และไม่ละคายเคือง เราจะเลือกใช้ให้เห็นผลถึงการคลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นและกล้ามเนื้อชั้นลึก โดยผู้รักษาจะมีความรู้สึกสั่นสบายระหว่างการกระตุ้น และรู้สึกถึงการคลายในระดับกล้ามเนื้อชั้นลึกตรงจุดที่มีอาการปวดได้อย่างชัดเจนโดยไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ
ในส่วนของกล้ามเนื้อมัดเล็กชั้นลึกตามแนวกระดูกต้นคอและกระดูกสันหลัง ทางสรีรารักเลือกใช้การกระตุ้นไฟฟ้าที่เรียกว่า ปากกาไฟฟ้า (point electrode) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าชนิดเดียวกันแต่สามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อมัดเล็กชั้นลึกได้เป็นอย่างดี เหมาะกับปัญหากลุ่มกล้ามเนื้อเกร็งเรื้อรัง เช่น ออฟฟิศซินโดรม ปวดคอ ปวดบ่า ปวดสะบัก ปวดหลัง ปวดหลังจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน ปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดสะโพกร้าวลงขา และอาการปวดทางระบบเส้นประสาทต่างๆ
ข้อดี จุดเด่น ของการรักษาด้วย การกระตุ้นไฟฟ้า Electrical stimulator
การกระตุ้นไฟฟ้ากายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดังนี้
ซ่อมแซมเนื้อเยื้อ
ลดปวด ลดบวม
ช่วยการเคลื่อนไหว หรือ เลียนแบบการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง
คลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นชั้นลึก
เพิ่มการไหลเวียนโลหิตในกล้ามเนื้อ
เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดดำ และน้ำเหลือง
เพิ่มความแข็งแรงในมัดกล้ามเนื้อที่มีภาวะอ่อนแรง
เพิ่มความเร็วในการนำกระแสประสาท
ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
กระตุ้นการซ่อมแซมแผลให้หายเร็วขึ้น
ข้อห้าม ข้อควรระวังในการกายภาพด้วย Electrical stimulator
ข้อห้าม
บริเวณทรวงอกในผู้ป่วยที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
บริเวณที่มีเครื่องกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ
บริเวณ Carotid Sinus
บริเวณที่เป็นโรคหลอดเลือดรอบนอก เช่น ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน(Venous thrombosis) และหลอดเลือดดำอักเสบ (Thrombophlebitis)
บริเวณที่เป็นเนื้องอก และโรคติดเชื้อ
บริเวณลำตัวของสตรีมีครรภ์
บริเวณที่มีแผลเลือดออก
บริเวณที่มีเหล็ก โลหะ ฝังอยู่ในกล้ามเนื้อ
ผู้ป่วยที่มีความดันสูงมาก หรือต่ำมาก
ข้อควรระวัง
บริเวณใกล้ทรวงอก
บริเวณข้างคอค่อนมาข้างหน้า(phrenic nerve)เพราะกระแสไฟฟ้าอาจไปรบกวนการหายใจ
ในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันสูง หรือต่ำ
บริเวณแขน/ขา ของสตรีมีครรภ์
บริเวณที่มีไขมันมาก
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้
กายภาพด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า ที่ไหนดี ที่สรีรารักดีอย่างไร
กายภาพด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า สรีรารักเราใช้ช่วยคลายปัญหา เรื่อง กล้ามเนื้อ ได้อย่างละเอียด เช่น หดเกร็ง หดสั้น หนาตัวเป็นลำ ก้อนกลมนิ่ม ก้อนกลมแข็ง ทั้งระดับกล้ามเนื้อชั้นตื้นและชั้นลึก รวมถึงปวดกล้ามเนื้อจากเส้นประสาทผิดปกติ ด้วยวิธีการเลือกใช้เครื่องมือกระตุ้นไฟฟ้าที่ทันสมัยและเลือกชนิดของกระแสไฟฟ้าที่เหมาะสม ใช้โดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญในเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าโดยเฉพาะและเชี่ยวชาญทั้งด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่อง กล้ามเนื้อได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
ข้อสรุป
การรักกษาโดยการกระตุ้นไฟฟ้า สามารถแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อได้อย่างละเอียดและตรงจุด ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กมักใหญ่ตรงบริเวณมัดที่มีปัญหาคลายและเพิ่มความยืดหยุ่นได้ โดยกลไกการกระตุ้นของกระแสไฟฟ้า ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด น้ำ และธาตุอาหาร ของเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อ รู้สึกเบาสบายตัวทันทีหลังการรักษา ผู้รักษาต้องให้เวลาในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อต่อเนื่องในช่วงแรก ประมาณสัปดาห์และ 2 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 3-4 สัปดาห์ พบว่าผู้ที่มีปัญหาไม่มากก็สามารถคลายกล้ามเนื้อลงได้เกือบปกติ จนสามารถหยุดการรักษาและกลับไปลุยงานต่อได้อย่างสบายเลยค่ะ แต่หากต้องทำร่วมกับการออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อตามที่นักกายภาพบำบัดแนะนำ กล้ามเนื้อจะไม่กลับมาปวดซ้ำแน่นอนค่ะ น้องสรีคอนเฟิม
ใครกำลังจะเลือกทำกายภาพบําบัด มีปัญหาที่กล้ามเนื้อ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง รักษาออฟฟิศซินโดรม ปวดคอ บ่าไหล่ น้องสรีขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆที่พร้อมช่วยดูแลรักษาคุณอย่างตรงจุด โดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อคืนอิสระให้ทุกความเคลื่อนไหว หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ สรีรารัก คลินิกกายภาพบำบัด หรือเบอร์ 096-515-4692 หรือ Line : @sarirarak
Commentaires